ปี 2025 เป็นปีที่ธุรกิจออกบูธ งานแฟร์ และงานตลาดนัดคึกคักกว่าเดิม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้น่าเชื่อถือและทันสมัยมากขึ้น “บูธไม้” ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง เพราะดูอบอุ่น เข้าถึงง่าย และเข้ากับสินค้าได้แทบทุกประเภท แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ดีไซน์ เทรนด์สี วัสดุ และการตกแต่ง ที่มีความทันสมัยและตอบโจทย์ประสบการณ์ผู้ใช้มากขึ้น

ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาดูเทรนด์การออกแบบบูธไม้ที่มาแรงที่สุดในปี 2025 พร้อมตัวอย่างการนำไปใช้ให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ

1. โทนญี่ปุ่นมินิมอลยังครองตลาด (Japanese Minimalist)

เทรนด์ “ญี่ปุ่นมินิมอล” ยังมาแรงต่อเนื่อง เพราะ
✔ เรียบง่าย
✔ อบอุ่น
✔ ดูแพง
✔ เข้ากับงานแฟร์ทุกประเภท

จุดเด่นลุคนี้

ใช้ไม้สนโทนอ่อน
หลังคาผ้าใบสีครีม
แสงไฟโทนอุ่น
ป้ายตัวอักษรน้อย ๆ
เน้นเส้นสายเรียบและงานฝีมือ

เหมาะมากกับร้านกาแฟ เบเกอรี่ สกินแคร์ หรือแบรนด์ที่ต้องการภาพลักษณ์ Clean + Natural

2. บูธไม้แนว Eco-Friendly / Green Design

ปี 2025 เป็นปีที่ผู้บริโภคใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น บูธไม้ที่เน้นวัสดุธรรมชาติและรีไซเคิลจึงได้รับความนิยมสูง

ดีไซน์ที่โดดเด่นในปีนี้

ไม้รีไซเคิล (Reclaimed Wood)
ป้ายกระดาษคราฟต์
โทนสีน้ำตาล–เขียว
การใช้ผ้าลินินและปอ
ไม่เคลือบเงามาก ให้ความเป็นธรรมชาติ

เหมาะกับสินค้าสาย Green เช่น
สบู่แฮนด์เมด, สกินแคร์ออร์แกนิก, ECO Products ทุกชนิด

3. Modular Booth – บูธไม้แบบโมดูลาร์

เทรนด์โมดูลาร์ (ประกอบ–ถอดง่าย) กำลังเป็นกระแสหลักของปี 2025

จุดเด่น

ใช้ระบบ “คลิกล็อก”
ประกอบเสร็จภายใน 10–15 นาที
สามารถเพิ่ม–ลด ชั้นวางได้
น้ำหนักเบา พกพาสะดวกมาก

เหมาะกับผู้ประกอบการที่ออกงานบ่อย เช่น
ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ ร้านของทำมือ ร้านแฟชั่น และร้านอาหารขนาดเล็ก

4. บูธไม้ผสมเหล็ก (Wood + Steel Industrial Loft)

การผสมผสานไม้กับเหล็กสีดำแบบ Industrial Loft เป็นหนึ่งในดีไซน์ที่มาแรงที่สุดสำหรับสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น

จุดเด่นสไตล์นี้

ให้ความรู้สึกแข็งแรง ทนทาน
มีภาพลักษณ์ทันสมัย
ดูเท่ มีคาแรกเตอร์ชัด
ชั้นวางสามารถรับน้ำหนักได้มาก

เหมาะกับ
✔ เสื้อผ้า
✔ รองเท้า
✔ กระเป๋า
✔ ของตกแต่งบ้าน
✔ แบรนด์ดีไซน์

5. บูธไม้แบบ Lightweight – บาง เบา แต่แข็งแรง

ร้านค้าในปี 2025 ให้ความสำคัญกับ

ความคล่องตัว
ความเบา
ใช้งานง่าย

จึงนิยมใช้ไม้

ไม้อัดเกรด A
ไม้สนบางแต่เคลือบแข็ง
ไม้ Poplar
เพื่อให้บูธพกพาง่ายขึ้น แต่ยังคงความแข็งแรง

6. Lighting Design – ไฟคือพระเอกของบูธปี 2025

เทรนด์ไฟสำหรับบูธไม้ปีนี้เน้น 3 แบบ

1) ไฟ Warm White + Track Light

เพื่อเน้นสินค้าให้โดดเด่น

2) ไฟ LED Strip ซ่อนใต้ชั้น

ช่วยให้บูธดูแพงขึ้นทันที

3) ไฟเพดานแบบ Soft Light

ปรับ Mood ให้เป็นโทนอุ่น ละมุน

ร้านกาแฟและเบเกอรี่ใช้เทคนิคนี้เยอะมากในปีนี้

7. Backdrop ไม้แบบ Clean + พิมพ์โลโก้ใหญ่

ปี 2025 เน้นให้โลโก้ร้าน “เด่นชัด” ขึ้น เพราะลูกค้ามักถ่ายรูปและแชร์ออนไลน์

เทรนด์ backdrop คือ

ไม้พ่นขาวบาง
ไม้โทนอ่อน
โลโก้กลางขนาดใหญ่
ป้ายแม่เหล็กหรือ Velcro เปลี่ยนง่าย

ผลคือร้านดูมืออาชีพมากขึ้น และจดจำแบรนด์ได้ง่าย

8. ใช้สีครีม–เบจ–ขาวคู่กับไม้

ปีนี้สีอันดับหนึ่งสำหรับบูธไม้คือ

ครีม (Cream)
เบจ (Beige)
ขาวนวล (Off-white)
น้ำตาลอ่อน (Natural Wood)

โทนสีนี้ช่วยให้บูธดูอบอุ่น มินิมอล และทันสมัย เข้ากับสินค้าได้ทุกประเภท

9. Booth with Story – บูธที่ “เล่าเรื่องแบรนด์”

เทรนด์บูธปีนี้ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้อง “เล่าเรื่อง” ด้วย เช่น

บอกแหล่งที่มาของวัตถุดิบ
กระบวนการผลิต
คอนเซปต์ของแบรนด์
คำคม หรือข้อความสร้างแรงบันดาลใจ
ป้ายไม้ที่สื่ออารมณ์ของร้าน

สิ่งนี้ช่วยสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้มากขึ้น

10. บูธไม้ทรงญี่ปุ่นแบบ “บ้านจิ๋ว” ยังแรงต่อเนื่อง

บูธไม้ทรงบ้านหลังคาหน้าจั่ว หรือบ้านญี่ปุ่นขนาดย่อส่วน เป็นหนึ่งในความนิยมสูงสุดของปี 2025 เพราะ
✔ ถ่ายรูปสวย
✔ ดึงคนได้
✔ ให้ความรู้สึกอบอุ่น
✔ สร้างเอกลักษณ์ได้ดี

เหมาะกับกาแฟ เบเกอรี่ งานคราฟต์ และแบรนด์สายคุณภาพ

สรุปเทรนด์บูธไม้ปี 2025

✔ ญี่ปุ่นมินิมอล ยังมาแรง

✔ Eco-Friendly จากวัสดุธรรมชาติ

✔ โมดูลาร์ ประกอบง่าย

✔ ผสมไม้ + เหล็กสไตล์ลอฟท์

✔ ไฟ Warm Light เน้นสินค้า

✔ Backdrop ใหญ่ ดูมืออาชีพ

✔ บูธบางเบา พกพาสะดวก

✔ บูธเล่าเรื่อง สร้างแบรนด์

บูธไม้ปี 2025 ไม่ได้เน้นแค่ “ความสวย” แต่เน้นประสบการณ์, ความสะดวก, ความยั่งยืน และการสื่ออัตลักษณ์แบรนด์อย่างชัดเจน ผู้ประกอบการที่ปรับตัวตามเทรนด์เหล่านี้ จะทำให้บูธดูโดดเด่นทันทีในงานแฟร์

เทรนด์การออกแบบบูธไม้ในปี 2025