การจัดไฟสำหรับ “บูธไม้” ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้บูธดูโดดเด่น อบอุ่น และชวนเข้ามาแวะชมสินค้าได้มากขึ้น บูธไม้มีเสน่ห์อยู่แล้วจากสีไม้ โทนธรรมชาติ และพื้นผิวที่ดูเป็นงานคราฟต์ แต่ถ้าได้แสงไฟที่เหมาะสมเข้ามาเสริม จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้าทันที โดยเฉพาะในงานแฟร์ งานอีเวนต์ หรืองานตลาดนัดที่มีคู่แข่งหลายเจ้า การจัดไฟที่ดีจะทำให้ผู้คน “มองเห็นก่อน จำได้ก่อน และเดินเข้าก่อน”

บทความนี้รวบรวม เทคนิคการจัดไฟสำหรับบูธไม้ ที่ทั้งมือใหม่และมือโปรสามารถนำไปใช้ได้ทันที ไม่ว่าจะขายกาแฟ เบเกอรี่ เสื้อผ้า แฮนด์เมด หรือสินค้าแนวไลฟ์สไตล์


1. เลือกสีไฟให้เข้ากับสไตล์บูธไม้

1.1 ไฟโทนอุ่น (Warm White 2700–3000K)

เหมาะมากสำหรับบูธไม้เกือบทุกรูปแบบ เพราะช่วย

  • ทำให้ไม้ดูอบอุ่น น่ามอง

  • เพิ่มกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่น/สแกนดิเนเวียน

  • ให้บรรยากาศผ่อนคลายและดูแพงขึ้น

ถ้าบูธของคุณเน้นขายครีม เบเกอรี่ ของแฮนด์เมด หรือกาแฟ ไฟโทนอุ่นคือตัวเลือกที่ดีที่สุด

1.2 ไฟโทนขาวนวล (Neutral White 3500–4000K)

เหมาะกับบูธที่ต้องการความชัดเจน เช่น

  • เสื้อผ้า

  • งานคราฟต์

  • สินค้าแนวไลฟ์สไตล์

  • สกินแคร์

ไฟโทนนี้ยังช่วยให้สีของสินค้าไม่เพี้ยน และทำให้บูธดูเป็นระเบียบขึ้น

1.3 ไฟโทนขาว (Cool White 5000K ขึ้นไป)

แนะนำเฉพาะกรณีที่ต้องการความสว่างสูง เช่น

  • บูธแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์

  • บูธบริการ

  • งานอาร์ตเวิร์กที่ต้องให้เห็นรายละเอียดชัด

แต่สำหรับบูธไม้โดยทั่วไป ไฟโทนขาวอาจทำให้บรรยากาศแข็งเกินไป


2. สร้างเลเยอร์ของแสง (Lighting Layering)

เทคนิคนี้คือการผสมแสงไฟหลายระดับเพื่อสร้างมิติให้บูธ

2.1 Ambient Light (แสงหลักของบูธ)

เช่น หลอดไฟเพดาน ไฟราง (Track Light) หรือหลอด LED Strip
ช่วยให้บูธสว่างทั่วถึงและดูอบอุ่น

2.2 Accent Light (ไฟเน้นจุดสำคัญ)

ช่วยดึงสายตาลูกค้า เช่น

  • ส่องสินค้าที่ขายดี

  • ส่องโลโก้ร้าน

  • ส่องเมนูหรือป้ายราคา

การใช้ Spotlight หรือ Track Light ช่วยเพิ่มความรู้สึก “สินค้ามีมูลค่า”

2.3 Decorative Light (ไฟตกแต่ง)

เช่น Fairy Light, ไฟเชือก, ไฟโคมกระดาษ
เพิ่มความรู้สึกเป็นกันเอง ให้กลิ่นอายงานแฟร์ที่อุ่นและน่ารัก


3. ใช้ไฟ Track Light แบบบูธมืออาชีพ

ไฟ Track Light มีข้อดี:

  • ปรับมุมได้

  • เน้นสินค้าได้ตรงจุด

  • ให้ความรู้สึกพรีเมียม

  • สร้างเงาสวย เพิ่มมิติให้บูธไม้

เคล็ดลับ:

  • ใช้รางสีดำหรือสีขาวเพื่อความมินิมอล

  • ใช้หลอดโทนอุ่นเพื่อให้ไม้โดดเด่น

  • ห่างจากสินค้า 30–50 ซม. กำลังพอดี


4. ใช้ LED Strip ซ่อนใต้ชั้นวางสินค้า

เทคนิคนี้ช่วยให้สินค้า “ลอย” ดูแพงขึ้นทันที
เหมาะกับบูธไม้ที่มี

  • ชั้นวาง

  • ตู้โชว์

  • โต๊ะวางสินค้า

ข้อดี:

  • ติดตั้งง่าย

  • ใช้ไฟน้อย ประหยัด

  • แสงนุ่ม ไม่แยงตา


5. สร้างจุดดึงดูด (Highlight Spot)

เลือกสินค้าเรือธง 1–3 ชิ้นแล้วเน้นไฟให้สว่างกว่าโซนอื่นเล็กน้อย
ช่วยให้ลูกค้าอยากเดินเข้ามาดู ทำเหมือน “สินค้าดาวเด่น” ในร้านใหญ่

เหมาะมากสำหรับ:

  • เค้กเด่น

  • กาแฟซิกเนเจอร์

  • เสื้อผ้าตัวท็อป

  • สกินแคร์ตัวขายดี

  • งานทำมือที่เป็นไฮไลท์


6. ใช้ไฟจากด้านหน้า ไม่ส่องจากด้านหลัง

บูธไม้ที่ส่องไฟจากด้านหลังหรือด้านบนมากเกินไปทำให้:

  • หน้าโต๊ะมืด

  • สินค้าดูไม่ชัด

  • ถ่ายรูปออกมาไม่สวย

ควรใช้ไฟส่องจากด้านหน้าในระดับสายตา เพื่อให้สินค้าโดนแสงสวยที่สุด


7. ใช้ไฟที่ช่วยให้ลูกค้า “ถ่ายรูปสวย”

ยุคนี้ลูกค้าอยากถ่ายรูปสินค้าและแชร์ลงโซเชียล การจัดไฟให้ถ่ายรูปง่ายช่วยเพิ่มมูลค่าบูธได้ทันที

เคล็ดลับ:

  • ตั้งไฟให้กระจายตัว นุ่ม ไม่แยงตา

  • ใช้ไฟโทนอุ่นปนขาวเล็กน้อย

  • มีมุมสินค้าที่ถ่ายแล้วสวยแบบ “ออร่าไฟไม้”

เหมาะกับธุรกิจ: กาแฟ เบเกอรี่ เครื่องดื่มสวยๆ ครีม เครื่องหอม และงานคราฟต์


8. อย่าลืมไฟสำหรับโลโก้และป้ายเมนู

ลูกค้าส่วนใหญ่เดินผ่านและมองป้ายก่อน
ถ้าโลโก้หรือป้ายไม่น่าดึงดูดก็เสียโอกาส

ทริคง่ายๆ:

  • ใช้ Spotlight ส่องโลโก้ให้เด่น

  • ใช้ไฟ LED Strip ซ่อนหลังป้ายแบบ Backlit

  • ทำไฟกรอบเมนูให้สว่างชัด


9. ใช้ไฟประหยัดพลังงานและไม่ร้อน

บูธไม้ส่วนใหญ่ตั้งในงานแฟร์ที่อากาศค่อนข้างร้อน
ไฟที่ควรใช้คือ

  • LED

  • หลอดกินไฟต่ำ

  • Spotlight ที่ไม่ร้อน

เพื่อให้บูธไม่อบอ้าว และรักษาอายุไม้ให้ยาวขึ้น


10. สรุปเทคนิคจัดไฟให้บูธไม้ดูอบอุ่นและน่ามอง

✔ เลือกโทนไฟให้เข้ากับสินค้า
✔ ทำเลเยอร์ของแสงแบบมืออาชีพ
✔ ใช้ Track Light สำหรับเน้นสินค้า
✔ ใช้ LED Strip เพิ่มความหรู
✔ เน้นสินค้าหลักด้วยไฟเฉพาะจุด
✔ ทำให้ถ่ายรูปง่าย ลูกค้าชอบ
✔ ส่องโลโก้ชัดเจน
✔ ใช้ไฟประหยัดพลังงาน

เพียงเท่านี้ บูธไม้ของคุณก็จะดู อบอุ่น มีเสน่ห์ ดึงลูกค้าได้มากขึ้น และเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้ทันที